top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนฐานิญา วรเลิศเมธากุล

สระต่างๆ ในภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน


สระในภาษาอังกฤษทั้งหมด สระเดี่ยวและสระผสม มีอะไรบ้าง

หากท่านกำลังเริ่มที่จะเรียนภาษาอังกฤษ หรืออยากเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด วันนี้ aroundthworld.com จะพาทุกท่านมาเรียนรู้อีกหนึ่งพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ นั่นก็คือ สระภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งในภาษาอังกฤษจะมีสระในภาษาอังกฤษด้วยกันหลักอยู่ 5 ตัว นั่นก็คือ A / E / I / O / U ซึ่งแต่ละตัวจะถูกแทนด้วยเสียงต่างๆ เช่น

A : จะออกเสียงในภาษาไทยเหมือน สระแอะและสระแอ ตัวอย่างเช่น Pat อ่านว่า แพท

E : จะออกเสียงในภาษาไทยเหมือน สระเอะ, สระเอ, สระอี ตัวอย่างเช่น Gen อ่านว่า เจน

I : จะออกเสียงในภาษาไทยเหมือน สระอิ, สระไอ ตัวอย่างเช่น Miss อ่านว่า มิส

O : จะออกเสียงในภาษาไทยเหมือน สระเอาะ, สระออ, สระโอ ตัวอย่างเช่น Box อ่านว่า บ็อกซ์

U : จะออกเสียงในภาษาไทยเหมือน สระอะ, สระอี, สระอือ, สระอู ตัวอย่างเช่น Sun อ่านว่า ซัน


สระผสมภาษาอังกฤษ มีความสำคัญอย่างไร ?

สระผสมภาษาอังกฤษ มักจะเป็นสระที่ออกเสียงยาว เรามักจะเห็นสระที่อยู่ระหว่างตัวอักษรตั้งแต่ 2 ตัขึ้นไป ซึ่งนั่นก็คือสระผสม ทำไมถึงต้องมีสระผสมด้วยล่ะ นั้นก็เพราะว่าสระผสมเป็นการรวมกันของสองสระเพื่อสร้างคำใหม่หรือเสียงใหม่ที่มีความหมายในคำศัพท์นั้นๆ ซึ่งการใช้สระผสมจพทำให้คำศัพท์น่าสนใจและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น - care (ดูแล) + full (เต็มใจ) = carefull แปลว่า ระมัดระวัง เป็นต้น


การออกเสียงในสระภาษาอังกฤษให้ถูกต้องต้องทำอย่างไร

การ ออกเสียงสระภาษาอังกฤษ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณสื่อสารอย่างถูกต้องและเข้าใจได้ในสังคมที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งในแต่ละตัวมีวิธีการออกเสียงและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรศึกษาวิธีการออกเสียงสระแต่ละตัว ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น สามารถฝึกการออกเสียงสระโดยฟังและพยายามออกเสียงตามตัวอย่างคำและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะการออกเสียงของคุณในภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น = I (สระไอ) : การออกเสียงต้องใช้ปากเปิดให้กว้าง ลิ้นบนอยู่ใต้เพดานและลิ้นล่างต้องอยู่ด้านหน้าของปาก ตัวอย่างคำ Believe แปลว่า เชื่อ



ดู 11 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page